วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2555

DAIRY

ไดอารี่
17/09/12

วันจันทร์วันเรียน
            วันนี้ตื่นมาก็ประมาณ6โมงครึ่งแล้วก็ลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จก็ประมาณ7โมง พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เอาข้าวที่ซื้อมาเมื่อวานเวฟกินหลังจากกินเสร็จก็ ใส่ถุงเท้า สะพายกระเป๋า มัดถุงขยะเพื่อเอาไปทิ้ง แล้วก็ออกจากห้องประมาณ7โมงครึ่ง แล้วก็เอาถุงขยะไปทิ้งแล้วก็เรียกวินมารับไปโรงเรียน (20บาทบางทีก็25) พอมาถึงโรงเรียนก็เอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องแล้วก็ลงมาเข้าแถวข้างล่างเพื่อทำกิจกรรมตอนเช้า เช้าวันนี้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ในโรงเรียนตอนแรกที่เห็นก็ประหลาดใจเพราะปกติจะไม่มี แล้วหลังเคารพธงชาติอาจารย์ค้าก็บอกว่ามันคือ พระพุทธชยันตรี องค์ดำ นาลันทา จากเสถียรธนนมสถาน
 หลังจากนั้นเด็กนักเรียนทุกคนก็ได้เข้าไปเอาน้ำมันมะพร้าวลูบที่องค์พระแล้วก็อธิษฐาน

หลังจากผมได้อธิษฐานเสร็จแล้วก็ขึ้นห้องไปเอากระเป๋าไปเรียนชมรมวอลเลย์บอล วันนี้ทั้งชมรมมากัน4คน(จะเล่นยังไงวะ)แล้วผมก็ไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดกีฬาแล้วก็เอากระเป๋าไปวางไว้บนเวทีที่โรงยิมแล้วพวกเรา4คนก็เล่นไปเรื่อยๆจนประมาณ10โมงครึ่งก็แยกย้ายกันไป(ก็มากันแค่นี้จะเล่นกันยังไงไหว)หลังแยกย้ายผมและเพื่อนอีก1คนก็ไปเอากระเป๋าที่อยู่ข้างบนมาเปลี่ยนกลับเป็นชุดนักเรียนแล้วพอเปลี่ยนเสร็จผมและเพื่อนก็เอาของจากในกระเป๋าที่ตอนเล่นวอลเลย์บอลเก็บไว้ในกระเป๋าออกมา แต่แล้ว!เรา2คนก็พบว่าโทรศัพท์มือถือขอเรา2คนหายไป (โอ้วไม่ๆๆๆ) ซึ่งปกติก็ไว้ตรงนั้นประจำไม่เคยหาย หลังจากนั้นเราก็ขึ้นไปข้างบนพยายามหามันแต่ก็ไม่พบเราจึงเรามาบอกกับอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมว่าโทรศัพท์หาย อาจารย์เค้าก็ช่วยเรา เราก็เล่าไปว่าตอนที่เล่นอยู่มีนักการภารโรงอีก2คนทำความสะอาดอยู่ด้วย ดังนั้นคนที่อยู่บนโรงยิมทั้งหมดตั้งแต่เอากระเป๋าไปวางไว้มีทั้งหมด6คนคือนักเรียนชมรมวอลเลย์บอลซึ่งเป็นเพื่อนกันหมด(ไม่น่าสงสัย)และนักการภารโรงอีก2คน(น่าสงสัย)หนึ่งในนักการภารโรงมีอยู่คนนึงพึ่งมาทำงานวันนี้เป็นวันแรกแล้วก็ทำความสะอาดใกล้กับกระเป๋าเรา2คนด้วย(น่าสงสัยมากๆ) เราจึงสงสัย2คนนี้มากอาจารย์เค้าก็บอกให้ไปตามอาจารย์สุคนธ์มาด้วย แล้วอาจารย์เค้าก็ไปค้นตัว2คนนั้นแล้วก็ให้ไปตามเพื่อนอีก2คนมาด้วย(กลายเป็นผู้ต้องสงสัยไปด้วยเลย55)แล้วอาจารย์ก็ให้พวกเราหาโทรศัพท์บริเวรนั้นไปเรื่อยๆจนเที่ยงก็ไม่เจอ แต่อาจารย์เค้าก็ช่วยเราเต็มที่ถึงขนาดยึดบัตรประชาชนภารโรงทั้ง2คนไว้เลยทีเดียว แต่ยังไงพวกเราก็หาไม่เจอทุกซอกทุกมุมก็ไม่มี อาจารย์เค้าก็เลยให้ไปก่อน เราจึงไปกินข้าวกันพอกินเสร็จผมก็ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบแล้วก็เรียนไปถึงเย็น (ลืมบอก วันนี้พ่อและพี่สาวของผมจะมาหาผมพอดี) พอเย็นพ่อผมก็มารับแล้วก็ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่1เครื่อง 650 บาท เพื่อใช้ไปก่อน พอซื้อเสร็จ ผมก็ไปซื้อของใช้ต่างๆกับพ่อและพี่สาวหลังจากนั้นพอซื้อของต่างๆเสร็จก็ไปกินส้มตำหน้ามหาวิทยาลัยแล้วก็กลับเข้าห้องแล้วผมก็ทงานต่างๆต่อแล้วก็ไปอาบน้ำนอน

วันนี้มีทั้งโชคร้ายและโชคดีในวันเดียวกัน  (เสียดายโทรศัพท์ เซง)

 



DAIRY

ไดอารี่
16/09/12

วันแห่งการเตรียมตัวไปโรงเรียนอีกแล้ว
              วันอาทิตย์ตื่นประมาณบ่าย2โมงแล้วก็เอาขนมที่ซื้อเมื่อวานมากินแล้วก็ทำงานเล่นคอมฯแล้วก็รีดผ้าที่ซักเมื่อวานไปเรื่อยๆจนถึงประมาณ4โมงเย็นก็ไปอาบน้ำ พออาบเสร็จก็เตรียมตัวไปว่ายน้ำกับเพื่อนๆ ก็เอากางเกงว่ายน้ำ ยาสระผม สบู่ ผ้าขนหนูไปแล้วก็ประมาณ5โมงก็ออกจากห้องแล้วก็เรียกวินไปสระว่ายน้ำพอไปถึงก็ต้องรอเพื่อนจน6โมงเย็น - -* พอว่ายน้ำเสร็จก็ไปอาบน้ำอีกรอบ ว่ายน้ำเสร็จประมาณ1ทุ่มกว่า พออาบน้ำเสร็จแล้วก็วิ่งไป 7-11 (เพื่อนปั่นจักรยาน) ไปหาของกินเพราะทั้งวันกินขนมไปอย่างเดียว พอกินเสร็จก็เข้า 7-11 อีกรอบไปซื้อข้าวกินพรุ้งนี้เช้า พอซื้อเสร็จก็เรียกวินเพื่อกลับห้อง ถึงห้องก็ประมาณ2ทุ่มจะ3ทุ่มแล้ว พอกลับถึงห้องก็มารีดผ้าต่อจนเสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำอีกที พออาบเสร็จก็มาทำงานเล่นคอมฯ กว่าจะนอนก็เที่ยงคืนแล้วล่ะครับ 

วันนี้อาบน้ำไป3รอบ  (รอบแรก จะอาบทำไมเดี๋ยวก็ไปว่ายน้ำ รอบสอง ต้องอาบเพราะว่ายน้ำมา รอบสาม อาบก่อนนอน การอาบน้ำทั้ง3ครั้งแต่ละครั้งห่างกันไม่เกิน4ชั่วโมง อาบน้ำเปลืองมากวันนี้)



วันเสาร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2555

DAIRY


ไดอารี่
14/09/12

เช้า    : ตื่นนอน 7:30 น. (ตื่นสายมาก) ไปโรงเรียนก็สายแต่เรียนคาบแรกทัน

เที่ยง  : หลังเรียนคาบ4เสร็จแล้วก็ลงมาทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนๆแล้วก็ขึ้นไปเรียนต่อจนเลิกเรียน

เย็น    : หลังเรียนเสร็จก็ไปที่ร้านถ่ายเอกสารแล้วก็ไปวางกระเป๋าที่เรือนไทยแล้วก็ไปที่โรงยิมเล่นวอลเลย์บอลหลังจากเล่นเสร็จก็เดินกลับไปที่เรือนไทยแล้วก็นั่งเรือนไทยกับเพื่อนแปปนึงแล้วเรียกวินกับห้อง

มืด     : หลังจากกลับจากโรงเรียนก็เข้า 7-11 ซื้อขนม แล้วก็ไปกินข้าว แล้วก็ขึ้นห้องทำการบ้านอาบน้ำนอน

วันนี้เป็นวันที่ปกติเหมือนเดิมไม่มีอะไรพิเศษ
                                                   

Link Blog

Link Blog
(ลิงค์บล็อกของทุกคนในห้อง)

  1. www.itme7.blogspot.com
  2. www.napattttt.blogspot.com
  3. www.supakorn43.blogspot.com
  4. www.beambeamz.blogspot.com
  5. www.choooocooo.blogspot.com
  6. www.railw.blogspot.com
  7. www.m43no07.blogspot.com
  8. www.std4308.blogspot.com
  9. www.aboutme-one.blogspot.com
  10. www.tesuphawit4.blogspot.com
  11. www.jomjomkris.blogspot.com
  12. www.myfreewebsitesafe.blogspot.com
  13. www.satit1411789dk.blogspot.com
  14. www.letplaythisgame.blogspot.com
  15. www.mydairy555.blogspot.com
  16. www.paisawas.blogspot.com
  17. www.workkkkkk.blogspot.com
  18. www.praewm4318.blogspot.com
  19. www.belhfl032.blogspot.com
  20. www.valentinetine.blogspot.com
  21. www.pnsy-post.blogspot.com
  22. www.tlesutthisak4322.blogspot.com
  23. www.leenwarintorn23.blogspot.com
  24. www.zeenpongsun.blogspot.com
  25. www.std4325.blogspot.com
  26. www.healthyy2.blogspot.com
  27. www.nymphsprofile.blogspot.com
  28. www.kknowledge9.blogspot.com
  29. www.woraphong1.blogspot.com
  30. www.sarach9.blogspot.com
  31. www.
  32. www.myblogblogblogmyblog.blogspot.com
  33. www.freewebp.blogspot.com
  34. www.
  35. www.pawatjindarat.blogspot.com
  36. www.
  37. www.timemy1234.blogspot.com
  38. www.kuk13333k.blogspot.com
  39. www.tortorres999.blogspot.com
  40. www.poommyy.blogspot.com

วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555


กระเพาะปลามาจากไหน
          ส่วนที่เราเรียกว่ากระเพาะปลานั้นคือถุงลมของปลาซึ่งเป็นอวัยวะส่วนที่นุ่มอร่อยเมื่อนำมาปรุงรส  การนำถุงลมมาแปลงโฉมเป็นกระเพาะปลาจะต้องลอกเอาเส้นเลือดและกล้ามเนื้อออกให้หมด  แล้วจึงนำไปทอดให้พองสวยน่ารับประทาน
       กระเพาะปลามีหลายระดับราคาแล้วแต่ความอร่อยและขนาดของกระเพาะ ปกติจะได้จากถุงลมของปลามังกร ปลาจวด  ปลากะพง  ปลาริวกิว กระเพาะปลาที่มีราคาแพงคือกระเพาะปลามังกรที่เรียกว่า  ‘เหมี่ยนฮื้อ'  ซึ่งคนจีนถือว่าช่วยบำรุงกำลังวังชาได้ดี  ส่วนที่เราท่านลิ้มลองอยู่ทุกบ่อยนั้นมักเป็นกระเพาะปลาที่ได้จากถุงลมของปลากะพงและถ้าโชคร้ายหน่อยก็อาจได้ลิ้มลองแค่หนังหมูแห้งที่แฝงมาในรูปของกระเพาะปลาปลอม

ที่มา:หนังสือ108ซองคำถาม                        


1 วันไม่ได้มี 24 ชั่วโมง


1 วันไม่ได้มี 24 ชั่วโมง
          เราต่างทราบกันดีว่า เวลา วัน คือ เวลาที่โลกหมุนรอบตัวเอง และกินเวลา 24 ช.ม. แต่จริงๆ แล้ว วัน ไม่ได้มี 24 ช.ม. หรอก > > ทั้งนี้เพราะการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงในมหาสมุทรทำให้เกิดแรงเสียดทานกับผิวโลกที่รองรับน้ำ เป็นเหตุให้โลกหมุนช้าลงวันละ 1/23 ล้านวินาที > > จากการศึกษาโดยใช้ปะการังโบราณพบว่า โลกของเราเมื่อ 400 ล้านปีก่อน วันมีแค่ 22ช.ม. เท่านั้น และปัจจุบัน วัน ก็ไม่ได้มี 24 ช.ม. เต็มๆ แต่มีแค่ 23 ช.ม. 56 นาที วินาที ฃำนวณดูแล้วต้องใช้เวลาอีก 15ล้านปีแน่ะ โลกถึงจะมี 24 ช.ม. อย่างแท้จริง! 

ที่มา: หนังสือ108ซองคำถาม                                                    http://writer.dek-d.com/Annna_19/story/view.php?id=421737#ixzz268i4g8BN

ประวัติช็อกโกแลต


"ประวัติช็อกโกแลต"
      ถิ่นกำเนิดของช็อกโกแลตอยู่ในเม็กซิโก เดิมเรียกว่า คาคาฮอดทัล’  ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ผลิตจากเมล็ดโกโก้ รสค่อนข้างขม แต่เมื่อเติมน้ำตาลแล้วรสชาติจะดี จึงมีการเรียกชื่อใหม่ว่าช็อกโกลาตส์’ ผู้ที่นำเอารสชาติของช็อกโกลาตส์เข้าไปแพร่หลายในสเปน คือ เฮอร์นันโด คอร์เทส นักสำรวจชาวสเปนที่เข้าไปถึงใจกลางเม็กซิโกเพื่อล่าอาณานิคม เล่ากันว่าจักรพรรดิมอนแตสมูซ่าและชาวแอสแท็คคิดว่า คอร์เทส เป็นพระเจ้าจากทะเล จึงต้อนรับโดยเลี้ยงเครื่องดื่มคาคาฮอดทัลหรือช็อกโกลาตส์นี้แก่เขา หลังจากนี้เครื่องดื่มรสประหลาดก็ได้แพร่หลายเข้าไปในประเทศอื่นๆในยุโรป และเมื่อไปถึงอังกฤษ ชื่อของช็อกโกลาตส์ก็เพี้ยนไปเป็น ช็อกโกแลต
     ปีค.ศ. 1765 เป็นต้นมาเกิดโรงงานผลิตช็อกโกแลตจากเมล็ดโกโก้ขึ้นหลายแห่ง ทั้งในยุโรปและอเมริกา มีการผลิตนมช็อกโกแลต ช็อกโกแลตแท่ง ช็อกโกแลตเคลือบ ฯลฯ

ที่มา:หนังสือ108ซองคำถาม
http://writer.dek-d.com/Annna_19/story/view.php?id=421737#ixzz268i4g8BN

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2555



ชื่อ นาย ปิยะพรณ รุ่งเรืองทิพย์สุภา
ชั้น ม.4 ปี2555